แมนนี่ ปาเกียว นักมวยอาชีพชื่อก้องโลก ปิดฉากชีวิตบนผืนผ้าใบของ เขาภายใต้ชื่อแห่งตำนาน
แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักชก ระดับตำนาน ชาวฟิลิปปินส์ ฉายา “เดอะ แพ็คแมน” ได้ประกาศ “แขวนนวม” อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ลั่นพร้อมลงสังเวียน การเมืองแบบเต็มตัว โดยมีเป้าหมายที่จะชิงเก้าอี้ ประธานาธิบดี ฟิลิปปินส์ในปี 2022
มิสเตอร์แพ็คแมน
เกิดวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2521 ที่เมืองบูคิดโนน ประเทศฟิลิปปินส์ มีชื่อเต็มว่า เอ็มมานูเอล ดาปิดราน ปาเกียว (Emmanuel Dapidran Pacquiao) ในครอบครัวที่ยากจนมาก ที่เมือง บูคิดนอน ซึ่งเป็นเมืองทาง ตอนใต้ของ ฟิลิปปินส์
โดยเป็นลูกชาย คนที่ 2 ในบรรดาลูกๆ ทั้งหมด 4 คน ของ โรซาลิโอ และ ดิโอนิเซีย ปาเกียว ทั้งคู่แยกทางกันตั้งแต่ปาเกียวยังเล็กๆ ปาเกียวขึ้นชกมวย ด้วยความยากจน
โดยขึ้นชกมวย สากลอาชีพครั้งแรกเมื่อต้นปี พ.ศ. 2538 ที่กรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ ได้ค่าตัวครั้งแรก 100 เปโซ โดยส่งเงิน มาช่วยเหลือกับ ครอบครัวโดยตลอด
แมนนี่ ปาเกียว ถือเป็นนักมวย ฟิลิปปินส์ที่ไม่เหมือนกับ นักมวยฟิลิปปินส์ รายอื่น ๆ
ด้วยความที่เป็น มวยทรหด หมัดหนักทั้งซ้ายและขวา จิตใจห้าวหาญ ไม่เคยกลัวใคร และสภาพร่างกาย แข็งแกร่งอยู่เสมอ
โดยปาเกียวสามารถ เอาชนะนักมวยไทย ที่มีฝีมือเก่งกาจ ได้ถึง 2 คน นั่นคือ โชคชัย โชควิวัฒน์ และ ฉัตรชัย สาสะกุล
โดยเฉพาะกับ ฉัตรชัย เป็นการเอาชนะ น็อกไปโดยไม่มี ใครคาดคิด มาก่อนด้วย ในประเทศไทย
และยังเป็นผู้แย่ง ตำแหน่งแชมป์โลก WBC ในรุ่นฟลายเวท ไปจาก ฉัตรชัย ขึ้นเป็นแชมป์โลก ครั้งแรกของปาเกียว
แต่อย่างไรก็ตาม ปาเกียว ก็ต้องมาเสีย ตำแหน่งแชมป์ ดังกล่าวคืนให้กับ นักมวยชาวไทย ด้วยการแพ้น็อก เม็ดเงิน กระทิงแดงยิม ไปเพียงยกที่ 3
ซึ่งเป็นการป้องกัน ตำแหน่งครั้งที่ 2 ของปาเกียว โดยก่อนการชก ปาเกียวมีปัญหาเรื่องการ ลดน้ำหนักตัว เป็นอย่างมาก จนทำให้ต้อง เสียตำแหน่งไป เมื่อไม่สามารถทำน้ำหนัก ให้อยู่ในพิกัดได้
ซึ่ง เม็ดเงิน ถือเป็น นักมวยเพียง 1 ใน 5 คนที่สามารถ เอาชนะปาเกียวได้ และเป็นเพียง 1 ใน 3 คนเท่านั้น ที่สามารถน็อก ปาเกียวลงได้
หลังจากนั้น ปาเกียวก็ได้ เดินทางไปชกมวย และใช้ชีวิต ในสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะมีชื่อเสียง ยิ่งใหญ่ระดับโลก จากการคว้าเข็มขัดแชมป์ อีกหลายต่อหลายรุ่น ในเวลาต่อมา
ปาเกียวสมรสกับ จินกี้ จาโมร่า เมื่อปี พ.ศ. 2541 ในขณะที่ เธออายุได้ 18 ปี ปาเกียวอายุ 19 ปี ปัจจุบันทั้งคู่ มีบุตรด้วยกัน ทั้งหมด 4 คน
โดยเขาได้โพสต์ คลิปวิดีโอความยาว 14 นาที ลงในเพจ เฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อการประกาศอำลา อาชีพนักมวย ที่เขานั้นรัก อย่างเป็นทางการแล้ว
“ผมได้เสียงระฆังยกสุดท้ายดังขึ้นแล้ว อาชีพนักมวยสำหรับผม มันจบลงแล้ว”
เขาคือนักกีฬาซึ่งสร้างสถิติ เป็นนักมวยสากล อาชีพคนแรก ที่ครองเข็มขัด แชมป์โลกถึง 8 รุ่น ระบุว่า
“ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวันนี้ วันที่ผมต้องตัดสินใจแขวนนวม”
เจ้าตัวยังฝาก คำขอบคุณไป ถึงแฟนมวย ทั่วโลกที่คอย ส่งแรงเชียร์มา ให้โดยตลอด
ปาเกียว ได้ชื่อว่าเป็นนักมวย ที่มีฟุตเวิร์ค และการรัวหมัด เร็วชนิดหาตัว จับได้ยาก โดยในอดีต โปรโมเตอร์มวยสากล บ็อบ แอรัม (Bob Arum) ถึงกับเคยพูด เอาไว้เมื่อปี 2010 ว่า ปาเกียวนั้น “ไร้คู่เปรียบ” และมีชั้นเชิงมวย ที่ยอดเยี่ยม ยิ่งกว่า “มูฮัมหมัด อาลี” เสียอีกในสายตาของเขา
จากจุดเริ่มต้น ที่ยากลำบากนี้ ตอนนี้ แมนนี่ “แพ็คแมน” ปาเกียว ได้กลายเป็น แรงบันดาลใจ ให้แก่ผู้คน เป็นหลายล้านคน
ถึงแม้ว่าเขา จะเป็นคนขี้อาย แต่เขาก็ได้ ปรากฏตัวในภาพยนตร์ หลายเรื่องใน ฟิลิปปินส์ รับบทบาทเป็น “แพ็คแมน” ซุปเปอร์อีโร่ ผู้ต่อสู้กับอาชญากร และบทบาทของ ผู้บัญชาการ ทหารกลุ่มกบฏ
ในวัย 32 ปี เขาเคยได้รับเลือก ให้เป็นผู้แทนราษฎร ในฟิลิปปินส์ และปัจจุบันยัง ได้ดำรงตำแหน่ง สมาชิกรัฐสภา ของอำเภอ ซารันกานี่ ในฟิลิปปินส์ หลายคนเชื่อว่า นักมวยมีศักยภาพ ในการจะเป็น ประธานาธิบดี ได้ในอนาคต
นอกจากจะเป็น นักมวยที่มีชื่อเสียง สมาชิกรัฐสภา และคุณพ่อของลูกๆ อีกห้าคนแล้ว ปาเกียวยังเป็น พันโทประจำ กำลังสำรองของกองทัพ ฟิลิปปินส์อีกด้วย และจากรายงานของ ฟอร์บส์ เขาได้รับการ จัดอันดับให้ อยู่ในนักกีฬา ที่ค่าตัวสูงสุด 15 อันดับของโลก
“ผมต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาไม่ยอมแพ้ต่อสถานการณ์ใดๆ ผมต้องการส่งเสริมให้พวกเขามีความหวังอยู่เสมอ” ปาเกียวกล่าว
แต่จะอย่างไรก็ตาม ปาเกียวในวัย 42 ปี มาพ่ายแพ้ให้แก่ ยอร์เดนิส อูกัส จากคิวบา ในการชกชิงแชมป์ รุ่นเวลเตอร์เวต ของสมาคมมวยโลก (WBA) เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนั้นมา เขาก็แสดงทีท่า ว่าอาจจะแขวน นวมอย่างถาวร
ปาเกียว เคยเป็นแฟนคลับ ตัวยงของประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต และได้ให้การสนับสนุน นโยบายซิกเนเจอร์ ของผู้นำขาโหด ไม่ว่าจะเป็น สงครามยาเสพติด หรือการรื้อฟื้น โทษประหารชีวิต
สายสัมพันธ์อันดี ระหว่างเขากับ ผู้นำฟิลิปปินส์ เริ่มไม่ราบรื่น หลังจากที่ ปาเกียว ออกมาวิจารณ์ ดูเตอร์เต ว่าทำตัวเป็นมิตรกับ “จีน” มากจนเกินไป รวมถึงตำหนิ ปัญหาการ ทุจริตคอร์รัปชัน ในรัฐบาล จนกระทั่งเมื่อเดือน ก.ค. ปาเกียว ได้ถูกโหวต ให้พ้นจากตำแหน่งประธาน พรรครัฐบาล PDP-Laban
ปาเกียว เริ่มผันตัวมา เล่นการเมือง ด้วยการลงสมัคร รับเลือกตั้ง เมื่อปี 2007 แต่ก็ประสบกับ ความพ่ายแพ้ จนกระทั่ง มาคว้าเก้าอี้ ส.ส.จังหวัดซารังกานี (Sarangani) ได้สำเร็จ ในปี 2010 และดำรงตำแหน่ง วุฒิสมาชิกในปี 2016
เป้าหมายหลังจาก การแขวนนวม แล้วเดินลงมา จากสังเวียนเกียรติยศ ที่เป็นทั้งชีวิตและจิตใจ ของเขาในครั้งนี้ คือจุดเปลี่ยนที่ สำคัญยิ่งอีกครั้งหนึ่ง ของฮีโร่นักชกเช่นเขา
เพราะเป้าหมายสูงสุด ของการเดินเข้าสู่ การเมืองอย่างเต็มตัว และการอุทิศตัว เพื่อรับใช้ชาติ ของเขานั้นคือ ตำแหน่งของ เก้าอี้ประธานาธิบดี แห่งประเทศฟิลิปปินส์นั่นเอง